เทคนิคการออกกำลังกายแบบ DRILL เพื่อเสริมประสิทธิภาพการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น

0
2250
เทคนิคการออกกำลังกายแบบ DRILL เพื่อเสริมประสิทธิภาพการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น
เทคนิคการออกกำลังกายแบบ DRILL เพื่อเสริมประสิทธิภาพการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น

เทคนิคการออกกำลังกายแบบ DRILL เพื่อเสริมประสิทธิภาพการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น

การออกกำลังกายแบบ DRILL เป็นการออกกำลังกายที่สำคัญอย่างมากสำหรับนักวิ่ง เพราะการฝึก DRILL เป็นประจำจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่มีความสำคัญต่อการวิ่ง ทำให้การขับเคลื่อนร่างกายเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ และยังสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บที่เกิดขณะวิ่งได้อีกด้วย หากนักวิ่งต้องการเพิ่มสมรรถนะในการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น การฝึกออกกำลังกายด้วยวิธี DRILL จึงสามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด

DRILL
ที่มาของรูป : https://www.freepik.com/premium-photo/slim-young-girl-stretching-her-legs-outdoors_3978146.htm

วิธีฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL ควรฝึกอย่างไร

การฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL ที่เหมาะสมนั้น ควรฝึกอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยใช้เวลาในการฝึกครั้งละ 10-15 นาทีก่อนวิ่ง ซึ่งการฝึกด้วยระยะเวลานี้จะช่วยทำให้ร่างกายสามารถคงประสิทธิภาพจากการฝึก และสร้างประโยชน์ต่อการวิ่งในแต่ละครั้งได้อย่างจริงจัง

ท่าฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL

เรามาดูกันดีกว่าว่าการฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL เพื่อเพิ่มสมรรถนะความแข็งแรงของร่างกายให้พร้อมกับการวิ่งมากขึ้นนั้น มีท่าฝึกอย่างไรบ้าง

1. ท่า SKIPPING

ท่าแรกของการออกกำลังกายแบบ DRILL คือ ท่า SKIPPING เป็นท่าสำคัญในการช่วยเพิ่มระยะก้าว และระยะยกเข้าให้กับนักวิ่ง ทำให้เกิดสมดุลของการก้าวมากขึ้น การฝึก SKIPPING ที่เหมาะสม คือควรยกเข่าให้สูงในแต่ละก้าว และแกว่งแขนให้มากขึ้น เน้นแรงเหวี่ยงของแขนเพื่อให้เกิดการทรงตัวที่ดีต่อการวิ่ง นักวิ่งควรฝึกท่า SKIPPING อย่างน้อยด้วยระยะทาง 15-20 เมตร แล้วหยุดพัก จากนั้นทำซ้ำอีก 2-3 ครั้ง สลับกับการหยุดพักไปเรื่อยๆ

เทคนิคการออกกำลังกายแบบ DRILL เพื่อเสริมประสิทธิภาพการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น
ที่มาของรูป : https://www.suunto.com/sports/News-Articles-container-page/8-essential-running-form-drills

2. ท่า BOUNDING

ท่านี้จะช่วยให้เกิดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ซึ่งจะทำให้นักวิ่งสามารถวิ่งระยะไกลโดยไม่เกิดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสมดุลในการถีบตัวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยไม่เสียการทรงตัว ทำให้เกิดความสมดุลในการเคลื่อนไหว การฝึก BOUNDING ที่เหมาะสม คือกระโดดสองขาไปข้างหน้าเป็นระยะทางอย่างน้อย 5 เมตร จากนั้นสลับมากระโดดทีละขาอีกอย่างน้อย 5 เมตร

ท่า BOUNDING
ที่มาของรูป : https://www.suunto.com/sports/News-Articles-container-page/8-essential-running-form-drills

3. ท่า LUNGE

เป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับช่วงกล้ามเนื้อกลางลำตัว ซึ่งมีประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาและกล้ามเนื้อก้นในเวลาเดียวกัน ยิ่งฝึกบ่อยครั้งก็จะยิ่งทำให้นักวิ่งเกิดความสมดุลขณะวิ่ง วิ่งแล้วทรงตัวได้อย่างมั่นคงด้วยความเร็วที่มากขึ้น โดยการฝึก DRILL ท่านี้มีวิธีการฝึกง่ายๆ คือ ก้าวขากว้างทั้งสองข้าง แล้วก้าวข้างประมาณ 10 ก้าว ฝึกก้าวทั้งแบบเดินหน้าและถอยหลัง ส่วนด้านข้างให้ก้าวในลักษณะเดียวกับการทำ Squat สลับขาคนละข้างประมาณ 10 ก้าวเช่นกัน

ท่า LUNGE
ที่มาของรูป : https://life.spartan.com/post/lunge-exercise

4. ท่า LATERAL SQUAT

ท่านี้สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการออกแรงในแบบเดียวกับท่า Squat ไปทางด้านข้าง สลับซ้ายขวาอย่างน้อยข้างละประมาณ 15 เมตร โดยกะระยะก้าวให้ห่างประมาณหัวไหล่ เคลื่อนที่ไปช้าๆ ไม่ต้องรีบ ทำสลับกันไปอย่างน้อย 5-10 ครั้ง โดยท่านี้จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อก้นแข็งแรงขึ้น และเป็นประโยน์ต่อร่างกายในขณะวิ่ง โดยเฉพาะการวิ่งบนพื้นผิวของเส้นทางที่ไม่เรียบ อย่างเช่น การวิ่งเทรล หรือถนนหนทางที่มีสภาพขรุขระซึ่งจะต้องใช้กำลังควบคุมการทรงตัวขณะวิ่งให้มั่นคงมากที่สุด

ท่า LATERAL SQUAT
ที่มาของรูป : https://www.youtube.com/watch?v=cPAEerLIihY

5. ท่า CARIOCA และ QUICK FEET

ท่านี้จะช่วยฝึกฝนความเร็วในการเคลื่อนไหวของเท้าให้ไวต่อการก้าวมากขึ้น รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับช่วงเข่าและสะโพก ไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บขณะก้าว เป็นท่าที่เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะในการก้าวเท้า และยังช่วยประหยัดพลังงานในการวิ่งได้มากขึ้น โดยสามารถฝึกได้ด้วยการก้าวเท้าสลับไขว้กันไปทั้งทางด้านซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะเดียวกันก็ให้แกว่งแขนไปด้วย เพื่อจะได้ฝึกด้านการทรงตัวไปพร้อมกัน โดยควรฝึกอย่างน้อยเป็นระยะทาง 15-20 เมตร

ท่า CARIOCA และ QUICK FEET
ที่มาของรูป : https://www.suunto.com/sports/News-Articles-container-page/8-essential-running-form-drills

ประโยชน์ของการฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL

ประโยชน์ของการฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL ที่นักวิ่งจะได้รับ มีดังนี้

1. DRILL ถือเป็นการวอร์มอัพร่างกายก่อนวิ่งที่เหมาะสม เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทำให้สามารถวิ่งได้ดีขึ้น

2. DRILL ช่วยลดอาการบาดเจ็บขณะวิ่ง เพราะร่างกายจะสามารถปรับสมดุลให้กับทุกส่วนของอวัยวะที่มีความสำคัญในการวิ่งให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ช่วงขา, เท้า, สะโพก, เข่า ทำให้เกิดการทรงตัวที่ดี และช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บลงได้

3. DRILL ช่วยให้คุณวิ่งได้อย่างถูกต้อง เพราะการฝึก DRILL ที่เหมาะสมนั้นจะมีส่วนสำคัญในการปรับท่าทางในการวิ่งของคุณให้ถูกต้องมากขึ้น ทั้งการทรงตัวที่ถูกวิธีและการก้าวขา หรือใช้แรงที่เหมาะสม ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการวิ่งได้มากที่สุด

ประโยชน์ของการฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL

ที่มาของรูป : https://www.freepik.com/free-photo/crop-woman-motion-running_1671512.htm

การฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL นับเป็นการฝึกที่มีความสำคัญสำหรับนักวิ่งทุกคนที่ต้องการประสบผลสำเร็จในการวิ่งและมีการพัฒนาการตนเองในทิศทางที่ดีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากขาดการฝึกซ้อม DRILL ก่อนลงวิ่งจริง ก็อาจจะทำให้การวิ่งเป็นไปได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจจะวิ่งผิดท่า และเกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ง่าย ดังนั้น หากคุณต้องการวิ่งให้ได้อย่างมืออาชีพ ก็ควรปรับเปลี่ยนการวอร์มอัพร่างกายก่อนวิ่งมาเป็นการฝึก DRILL เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการวิ่งทุกครั้งจะดีที่สุด