9 ขั้นตอน เตรียมตัวยังไง เมื่อต้องไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศ!!
อย่างที่รู้กันดีว่าการวิ่งมาราธอนกลายเป็นเทรนด์ฮิตติดลมบนสำหรับคนทุกเพศทุกวัยไปแล้ว ปัจจุบันเราสามารถลงสมัครร่วมรายการวิ่งทั้งระยะสั้นและระยะไกลได้ตลอดทั้งปี เพราะประเทศไทยของเรามีรายการวิ่งมาราธอนให้เข้าร่วมมากมายทั่วทุกภูมิภาค
แต่ถ้าอยากไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศล่ะ ต้องเตรียมตัวยังไง?
ต่างประเทศเองก็มีรายการวิ่งมาราธอนที่น่าสนใจหลายรายการและที่สำคัญการวิ่งรายการใหญ่ๆ ที่น่าเข้าร่วมนั้น บางรายการมีประวัติความเป็นมายาวนาน บางรายการก็จัดขึ้นที่ประเทศในฝัน ทำให้นักวิ่งตัวจริงอยากลองไปสัมผัสกับการวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศดูสักครั้ง
แต่การไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศนั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ นึกอยากจะไปก็ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางไปยังประเทศที่อยู่คนละเขตเวลาหรือประเทศที่มีภูมิอากาศแตกต่างจากบ้านเรามากๆ เนื่องจากการไปวิ่งที่ประเทศเหล่านี้ร่างกายต้องปรับตัวอย่างมาก แค่ไปเที่ยวธรรมดายังลำบากถ้าร่างกายไม่พร้อมจริงๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจะมาแนะนำ 5 ขั้นตอน การเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเมื่อต้องไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศ โดยจะมีทั้งการเตรียมตัวก่อนเดินทาง หลังจากไปถึงที่หมาย และการพักผ่อนหลังวิ่งมาราธอนด้วย
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!!
1. เลือกจุดหมายปลายทาง
แน่นอนว่าก่อนออกเดินทาง เราต้องเลือกประเทศที่น่าสนใจเสียก่อน สำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศและยังไม่ชินกับเมืองที่มีโซนเวลาหรือสภาพอากาศต่างจากบ้านเรามากๆ อาจลองปักหมุดจากประเทศใกล้เคียงไว้ก่อน
2. รายการวิ่งมาราธอนที่สนใจเข้าร่วม
การเลือกเข้าร่วมรายการวิ่งมาราธอนรายการใหญ่ในประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้นจะทำให้เราได้พบกับบรรยากาศสุดคึกคักของนักวิ่งจากทั่วโลก แถมยังได้สัมผัสมุมมองการวิ่งใหม่ๆ เช่น ไปสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนกับรายการวิ่ง Great Wall Marathon หรือประเทศญี่ปุ่นที่มีงานวิ่งมาราธอนนานาชาติที่น่าสนใจหลายรายการ เช่น Okinawa Marathon เป็นต้น วิ่งไป เที่ยวไป แตกต่างจากการเดินทางไปเที่ยวธรรมดาๆ
3. ตรวจสอบวัน เวลา และโปรแกรมการวิ่ง
ตรวจสอบวัน เวลา และข้อมูลโปรแกรมวิ่ง จากนั้นนำวันและเวลาวิ่งมาตรวจสอบว่าตรงกับฤดูอะไร สภาพอากาศในช่วงนั้นเป็นแบบไหน เพื่อให้เราสามารถเตรียมเสื้อผ้าและของใช้สำคัญติดตัวไปได้อย่างเหมาะสม แน่นอนว่าไอเทมประจำตัวอย่างรองเท้า ชุดวิ่ง หรือของใช้ประจำตัวอื่นๆ ห้ามลืมเด็ดขาด ส่วนใครที่ต้องการนำเอาเพาเวอร์บาร์หรือเจลแบบเคี้ยวเพื่อเติมพลังระหว่างการวิ่งติดไปด้วยเพราะไม่อยากไปหาซื้อที่ต่างประเทศก็สามารถทำได้ แต่ถ้าพกพาแบบเจลสำหรับดื่มไปก็อย่าลืมเลือกซองที่ปริมาณไม่เกิน 100 กรัม หากเกินกว่านี้ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง
4. ลงสมัครรายการวิ่งให้เรียบร้อย
เมื่อเลือกรายการวิ่งที่เราสนใจและตรวจสอบวันเวลาที่แน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลงสมัครและชำระเงินค่าสมัครผ่านทางเว็บไซต์ จากนั้นเก็บสิ่งที่สำคัญที่สุด กาดอกจันตัวโตๆไว้เลย ก็คือการเก็บข้อมูล ‘Race entry information’ หรือข้อมูลสำคัญของโปรแกรมวิ่งไว้ให้ดี หากทางเว็บไซต์ส่งข้อมูลให้เราเป็นอีเมลก็ให้ทำการพริ้นท์ออกมาไว้ เพราะในข้อมูลตัวนี้จะมีรายละเอียดสำคัญต่างๆ ทั้งจุดนัดพบสำหรับรับเบอร์วิ่ง (BIB) สถานที่และเส้นทางวิ่ง และข้อมูลควรรู้อื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งที่เราต้องรู้สำหรับการวิ่งครั้งนี้
5. เช็ควันลา จองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า
เมื่อเราเตรียมพร้อมเรื่องการวิ่งมาราธอนทุกอย่างเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็คือการเช็คปฏิทินการทำงานเพื่อเลือกวันลา ควรลาล่วงหน้าเอาไว้ แจ้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงานไว้ด้วยเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่ทำให้เราอาจพลาดการเดินทางครั้งสำคัญ หลังจากยื่นใบลาเรียบร้อยก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และที่พักที่สามารถเดินทางไปยังเส้นทางวิ่งได้สะดวกที่สุด
6. เตรียมเอกสารสำคัญให้ครบ
อย่าลืมเช็คเอกสารประจำตัวอย่างพาสปอร์ตให้ดี ใครที่พาสปอร์ตใกล้หมดอายุต้องทำให้ไว้เลย สำหรับเงินต่างประเทศจะใช้วิธีทยอยแลก หรือแลกรวดเดียวเลยก็ได้ขึ้นอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน ส่วนของใช้สำคัญอื่นๆ อย่าง Internet sims อุปกรณ์ First aid และยาประจำตัวก็ต้องเตรียมเอาไว้ด้วย การเตรียมพร้อมล่วงหน้าจะทำให้เราสบายใจขึ้น แถมยังไม่ต้องเหนื่อยวิ่งวุ่นช่วงใกล้ถึงเวลาเดินทาง ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมอะไรสำคัญๆ
7. หลังเดินทางถึงที่หมาย พักผ่อนให้เต็มที่
เมื่อเราเดินทางมาถึงประเทศที่หมายสำหรับการวิ่งมาราธอน ให้พักผ่อนเต็มที่อย่างน้อย 1 วันเพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับโซนเวลาและสภาพอากาศ อย่าเพิ่งคึกตะลุยเที่ยวจนเพลินล่ะ เพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมจากการเดินทางอาจเล่นงานคุณในวันวิ่งได้ แต่ถ้าใครอยากยืดเส้นยืดสายก็อาจเดินเล่นสำรวจย่านที่พักแบบเบาๆ อย่าเพิ่งรีบเดินเยอะ อย่าตื่นเต้น คิดไว้เสมอว่าเราต้องถนอมขากันไว้ด้วย
8. สำรวจเส้นทางวิ่งไว้ก่อน
เมื่อร่างกายกลับมาฟิตเต็มที่ให้หาข้อมูลสำรวจเส้นทางจากที่พักไปสถานที่วิ่ง ว่าใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหนและต้องเดินทางอย่างไร เพื่อให้เราสามารถกะเวลาเดินทางคร่าวๆ ได้ ศึกษาเส้นทางการวิ่งให้ดีและทำความคุ้นเคยกับแผนที่เมืองให้มากที่สุด และเมื่อถึงวันจริง ควรไปถึงก่อนเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
9. พักผ่อนหลังวิ่ง กิน เที่ยว ก่อนกลับ
เมื่อผ่านการวิ่งมาราธอนไปแล้ว ควรพักผ่อนอย่างน้อย 1 วัน จากนั้นอย่าลืมเที่ยวต่อให้จุใจก่อนกลับ คราวนี้ไม่ว่าจะกิน เที่ยว หรือช้อปก็สนุกสุดเหวี่ยงได้แบบไม่ต้องกลัวร่างกายจะเหนื่อยล้าสะสมแล้ว จัดเต็มกันได้เลย เพราะมาวิ่งที่ต่างประเทศทั้งทีก็ต้องถือโอกาสเที่ยวเก็บประสบการณ์กันไปพร้อมกัน
การท้าทายตัวเองด้วยการออกไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศนั้น อาจทำให้เราต้องเจอปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย สภาพอากาศที่แตกต่าง หรือโซนเวลาที่เล่นงานให้เราอ่อนเพลีย แต่หากเราเตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้าให้ดีที่สุด การไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวและไม่เกินความสามารถของเราแน่นอน